9/16/2553

การดูแล-รักษา หนังแท้ หนังเทียม

  
  โดยปกติแล้วกระเป๋าหนังจะแบ่งตามลักษณะของหนังที่ใช้เป็น 2 ประเภทอันได้แก่  หนังสังเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็น microfibre , PU หรือ Synthetic ทั่วๆไป  และหนังแท้ คือ หนังจิ้งโจ้ ,  หนังวัวและรวมถึงหนังแกะ  ดังนั้นวิธีการดูแลรักษาหนังแต่ละแบบก็จะแตกต่าง กันออกไปด้วย  เรามาเรียนรู้วิธีการดูแลรักษากระเป๋าแบบที่เป็นหนัง สังเคราะห์กันก่อนค่ะ
 
นังสังเคราะห์


     การดูแล รักษาหนังสังเคราะห์นั้นง่ายที่สุด  กระเป๋าจากหนังสังเคราะห์นั้นจะคืนตัว และมีความหยืดหยุ่นน้อยกว่าหนังแท้  ให้ใช้ผ้าเปียกหมาดๆ ค่อยๆ เช็ดให้สะอาด  ไม่ควรนำไปแช่น้ำหรือซักทั้งกระเป๋านะ   พอเช็ดจนสะอาดแล้ว ให้เช็ดด้วยผ้าหมาดๆ อีกครั้งหนึ่ง   จากนั้นนำไปตากลมไว้จนแห้ง   ห้ามเอาไปตากแดดเด็ดขาดนะคะ   เท่านี้ก็จะช่วยให้ความเหนียวของหนังนั้น กลับมาเหมือนใหม่ได้อีกครั้งค่ะ



คำเตือน   ไม่ควรใช้น้ำยาขัด-เคลือบใด ๆ ทั้งสิ้น  เพราะ จะทำให้สารที่เคลือบหนังสังเคราะห์ เอาไว้เสียสภาพไป  ส่วนใครที่อยากจะกำจัดกลิ่นและสิ่งสกปรกภายในกระเป๋า นั้น  จริงๆ แล้วก็พอจะนำไปตากแดดได้  แต่ต้องเป็นแดดที่ไม่แรงมากและต้องใช้เวลาไม่นาน นะคะ   หรือหากต้องการ clean จริงๆ ส่งซักแห้งอย่างเดียวเลยค่ะ
 
   หนังแท้
  จาก ที่กล่าวมาในข้างต้นนะคะ ว่าหนังแท้นั้นได้แก่ หนังจิงโจ้ หนังวัว และหนังแกะ การดูแล รักษาหนังแท้นั้นอาจจะยุ่งยากกว่าหนังสังเคราะห์สักหน่อย   

     1. ข้อ นี้ต้องจำไว้เสมอเลยนะคะ ว่าหลังจากใช้กระเป๋าเสร็จต้องการเก็บ ให้เอามาทำความสะอาดก่อน ถ้าครั้งใดที่ใช้แล้วเปียกหรือชื้นยิ่งต้องรีบเอา ออกมาทำความสะอาดเลยค่ะ  ไม่ควรจะปล่อยให้กระเป๋าที่เป็นหนังแท้ต้องอยู่กับ ความชื้นนาน ๆ เพราะอาจจะทำให้หนังแท้เสื่อม

     2. จากนั้นให้ใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดตัวกระเป๋า  พอสะอาดแล้วให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งที่สุด

     3. หลังจากแห้งแล้วให้ใช้น้ำยาเคลือบหนัง (แล้วแต่ยี่ห้อ) ทาบางๆ คล้ายฟิล์มเคลือบไว้ประมานครึ่งชั่วโมง  แล้วให้เช็ดออก

     4. การ เก็บรักษาถ้าไม่ได้ใช้ก็เก็บใน Dust bag  และเก็บไว้ในที่ที่ไม่มีความชื้นมากนัก  หรือไม่ก็ให้ใช้ถุงดูดความ ชื้นใส่ไว้ใน Dust bag ด้วยก็ได้นะคะ

คำเตือน  ไม่ควรตากแดดแรงๆ และนานๆ เพราะจะทำให้หนังแห้งและกรอบได้   รวมถึงไม่ควรให้อยู่ในสภาวะที่มีความชื้นนานๆ   กระเป๋าจะขึ้นราได้ค่ะ

9/11/2553

สปาผิวง่ายๆด้วยตัวคุณเอง


   ถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านให้เป็นสปาแบบง่ายๆ เพื่อใช้เวลาในวันว่างโดยไม่ต้องไปเสียเงินแพงๆ ก็น่าจะทำเองได้ไม่ยาก เพียง แต่จัดบริเวณที่ชอบที่สุด เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องน้ำ เก็บกวาดให้สะอาด ตกแต่งบรรยากาศด้วยต้นไม้ดอกไม้ หรือหาอ่างน้ำลอยกลีบดอกไม้มาวางสักใบก็ให้บรรยากาศชุ่มเย็นดี อาจหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงไปบนเตาอุ่นให้ร้อนจนกลิ่นหอมฟุ้งกระจายทั่วห้อง เติมสีสันอีกนิดด้วยเสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ช่วยผ่อน-คลายจิตใจให้สบาย จัดการอาบน้ำ ล้างหน้า ชำระร่างกายให้สะอาดสดชื่น ก่อนจะเริ่มการบำบัดโดยการนวดให ้กันและกัน หรือทำสปาบำรุงผิวด้วยการบรรเลงสิ่งต่างๆ ลงบนผิวตัว ผิวหน้า และเส้นผมของคุณเองตามที่เราจะแนะนำต่อไปนี้
 
คุณค่าจากธรรมชาติที่คุณหาได้ใกล้มือ

 
ขมิ้นชัน สีเหลืองอมส้ม ที่นิยมนำมาทำแกงเหลือง หรือแกงปักษ์ใต้ มีฤทธิ์ร้อนในตัวเอง จัดเป็นพระเอกของการรักษาผิว ช่วยลบจุดด่างดำทำให้ผิวเปล่งปลั่งเนียนขึ้น บรรเทาผดผื่นคันทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และช่วยรักษาสิวทำให้สิวสุกและแห้งเร็ว สามารถใช้ได้ทั้งแบบแห้งและเปียก

แบบแห้ง นำขมิ้นชันมาปอกเปลือก แล้วฝานเป็นแผ่นบางๆ นำมาทาที่ผิวบริเวณที่เป็นผดผื่่นคันโดยตรง ทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาทีค่อยล้างออก หากต้องการเก็บไว้นานก็นำไปตากแห้งแล้วค่อยบดให้ละเอียดจนเป็นผงใช้ทาบนผิว หรือผสมกับสมุนไพรอื่นๆ

แบบเปียก มาขมิ้นชันมาคั้นกับน้ำ ผสมดินสอพอง มะขามเปียก ใช้ขัดหรือพอกผิวได้ หรือต้มกับน้ำ ผสมเป็นน้ำอาบ หรือลงไปแช่ทั้งตัวก็ได้
ดินสอพอง ที่เรานิยมเอามาประแป้งกันในวันสงกรานต์ ทำจากดินขาวหรือเกาลินที่มักจะนำมาผ่านกระบวนการอบร่ำกับกลิ่นดอกไม้มาแล้ว เป็นแป้งที่มีความเย็นจึงช่วยบรรเทาผดผื่นได้ หรือทำเป็นดินพอกหน้า ช่วยกระชับรูขุมขนให้ผิวเรียบเนียนขึ้นไม่แพ้ครีมพอกหน้าที่ขายกันแพงๆ (หากสังเกตดีๆ จะเห็นส่วนผสมที่ทำจากดินเกาลินเหมือนกัน)

  วิธีใช้  ก่อนใช้ควรนำดินสอพองมาอบ หรือคั่วในกระทะให้ร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วบดให้ละเอียด ผสมกับผงขมิ้น  ในอัตราส่วน 10 : 1 สำหรับผู้ใหญ่ และ 20 : 1 สำหรับใช้ในเด็ก เวลาใช้นำไปผสมน้ำเย็นจัดพอให้ข้นทาให้ทั่วผิว พอกทิ้งไว้ 15-30 นาที
เหมาะกับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย หากผสมกับนมสดจะใช้บำรุงผิวให้นุ่มนวล หรือคนที่ผิวมันหรือผิว
แห้งมากอาจนำดินสอพองที่ผสมผงขมิ้นแล้วมาเติมน้ำผึ้งลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะ พอกหน้าไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะช่วยปรับสภาพผิวได้ดีขึ้น

น้ำผึ้ง
ในเชิงแพทย์แผนโบราณถือว่าน้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ มีการใช้น้ำผึ้งเป็นตัวประสานเนื้อยาสมุนไพรในการทำยาลูกกลอนมาแต่โบราณ เมื่อใช้กับการบำรุงผิวก็จะแทนมอยสเจอไรเซอร์ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งชุ่มชื่่นและนุ่มนวล เหมาะกับฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้ง แตกเป็นขุย หรือผิวมัน

วิธีใช้ ให้นำน้ำผึ้งประมาณ 3 ช้อนโต๊ะผสมกับดินสอพองหรือผงขมิ้น ครึ่งช้อนชา ใช้แทนครีมนวดหน้า ประมาณ 15 นาทีจึงล้างออก หรือหากต้องการบำรุงผิวเป็นพิเศษ สำหรับคนผิวหน้ามัน ให้เอาน้ำผึ้งผสมไข่ขาวทาให้ ทั่วใบหน้า (เว้นรอบดวงตา) หากผิวแห้ง ใช้น้ำผึ้งผสม ไข่แดง หรือโยเกิร์ต ช่วยบำรุงผิวล้ำลึกถึงผิวชั้นในได้

มะขามเปียก คุณทราบไหมว่ามะขามเปียกเป็นสินค้าส่งออกของบ้านเราไปยังประเทศที่ผลิตน้ำมันเพื่อไปล้างท่อน้ำมัน เป็นข้อยืนยันว่ามะขามเปียกมีสรรพคุณในการทำความสะอาดความมันบนใบหน้าอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง โดยเฉพาะจะเหมาะมากกับผู้ใหญ่ที่เริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือคนที่เป็นฝ้า ในมะขามเปียกจะมีสาร AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป และมีสารเคลือบผิวเป็นฟิล์มบางๆ ช่วยเคลือบเซลล์ที่เริ่มแห้งเพราะสูญเสียความชุ่มชื้น เมื่อใช้เป็นประจำจะค่อยๆ ลบเลือนริ้วรอยได้ และช่วยทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น
วิธีใช้ เวลาเราไปซื้อมะขามเปียกจากตลาดจะขายเป็นปั้นๆ ขนาดกำมือ แบ่งมาสักส่วนหนึ่ง ดึงใยและผิวแข็งๆ ออกให้เหลือแต่เนื้อและกากเล็กน้อย ใช้ถูนวดบนผิวหนังเป็น scrub ได้อย่างดี หรือเติมน้ำแล้วคั้นกรองเอาแต่น้ำมะขามให้ได้น้ำประมาณ 1 ถ้วยเล็กๆ นำมาชโลมผิวตัว ถ้าผิวหน้าก็ใช้เพียง 1-2 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ 3-5 นาที ค่อยล้างออก

 
มะเขือเทศ ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มเนียนใสเป็นสีชมพู โดย ใช้มะเขือเทศสุกลูกโตๆ 1 ลูก แช่ให้เย็น แล้วนำมาฝานเป็นแว่นบางๆ แปะไว้ให้ทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาทีแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเย็น หรืออาจใช้มะเขือเทศสีดาที่ใช้ทำส้มตำสัก 2-3 ลูก นำมาเจาะแล้วคว้านเอาน้ำข้างในออกมาชโลมผิวหน้า หรือผ่าแบ่งครึ่งแล้วกลับเอาด้านในออกมาคลึงเคล้าไปบนใบหน้าก็ได้

  แตงกวา  เราสามารถใช้น้ำที่คั้นจากแตงกวามาชะโลมที่ผิว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นบนใบหน้า และรอบดวงตา โดยเฉพาะช่วงหลังจากตากแดดมานานๆ ทำให้ผิวเย็น  

 วิธีใช้ นำแตงกวา 2 ลูกหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วใส่เครื่องปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำวุ้นว่านหางจระเข้และ้น้ำำผึ้ง ใช้ล้างหน้าแทนสบู่ หรือพอกไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก หรือฝานเป็นแว่นบางๆ วางแปะบนผิวหน้า พอรู้สึกว่าแห้งติดผิวแล้วก็ดึงออกเป็นมาสก์ (mask) ที่ช่วยดึงสิ่งสกปรกและเซลล์ที่ตายแล้วหลุดออกจากผิวหนังไปด้วย เป็นการรักษาความสะอาดในชั้นผิวที่ลึกขึ้น แล้วค่อยล้างน้ำออกเป็นปกติ

 
ว่านหางจระเข้ เป็นพืชสารพัดประโยชน์ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เคลือบผิวเพื่อรักษาสมดุลของน้ำและไขมันใต้ผิวหนัง รักษาผิวอักเสบ และผิวที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพผิวไม่ให้แห้งหรือมันมากเกินไป และรักษาสิว ฝ้า

 
 
วิธีใช้ เมื่อตัดว่านหางจระเข้แล้วแช่น้ำไว้สักครู่ให้ยางเหลืองไหลออกมา ปอกเปลือกแล้วล้างยางออกให้หมด เพราะส่วนนี้มีฤทธิ์กัดผิว นำแต่วุ้นสีขาวด้านในมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ ทาบนผิวเป็นประจำช่วยทำให้
ิวพรรณเปล่งปลั่ง หรือบดให้ละเอียดคั้นจนได้น้ำวุ้นชโลมผิวบริเวณที่ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ให้เร็วที่สุด จะช่วยลดการพุพองให้น้อยลง และช่วยสมานผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากใครต้องการแก้สิวฝ้าใบหน้า
ด่างดำ ให้นำวุ้นแปะให้ทั่วใบหน้าพอกไว้จนแห้งประมาณ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย แล้วค่อยล้างออก

นอกจากนี้วุ้นของว่านหางจระเข้ก็ยังสามารถนำมาใช้หมักผมได้ ทำให้ผมนุ่มสลวย ในคนที่ผมเริ่มเปลี่ยนสีก็สามารถใช้ส่วนที่เป็นยางสีเหลืองที่ติดเปลือกมาทาละเลงบนเส้นผม ช่วยย้อมให้ผมเป็นสีดำ เงางามยิ่งขึ้น
แต่ต้องระวังควรใส่ถุงมือเวลาทำ เพราะยางเหลืองนี้มีฤทธิ์กัดผิว และเมื่อถูกผิวจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำอาจเกิดรอยด่างดำได้

 น้ำมันมะกอก
สามารถนำมาผสมกับน้ำมันหอมระเหยลิ่นที่ชอบเล็กน้อย แล้วใช้เป็นน้ำมันนวดตัว เพื่อบำรุงผิวให้นุ่มนวลโดยเฉพาะกับคนที่ผิวแห้ง หรือนำมาใช้หมักผมเพื่อบำรุงให้ผมนุ่มสลวยไม่แห้งกรอบ


 
วิธีใช้  ชโลมน้ำมันเล็กน้อยประมาณ 1 ช้อนชาบนเส้นผมแล้วเอา ผ้าขนหนูอุ่นๆ ห่อไว้ เพื่อความร้อนจะได้ช่วยเปิดให้รูขุมขนขยายตัวรับอาหารที่ให้เข้าไปอย่างเต็มที่ หมักทิ้งไว้สัก 15 นาที แล้วค่อยสระออก สำหรับคนที่มีเส้นผมค่อนข้างอ่อนจัดทรงยาก อาจเอาน้ำมันมะกอกตีกับไข่แดงแล้วใช้หมักผมวิธีเดียวกัน โปรตีน และทองแดงในไข่แดงจะเคลือบบนเส้นผมช่วยให้ผมแข็งแรง มีน้ำหนักมากขึ้น

   สูตรทรีตเมนต์ต่างๆ ตามภูมิปัญญาไทยเหล่านี้จะเห็นว่าเป็น การรวมวิธีการบำบัดทั้ง 5 แบบที่กล่าวถึงข้างต้นไว้ด้วย
ันอย่างกลมกลืน คุณสามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ หรือหมุนเวียนเปลี่ยนสูตรต่างๆ กันไป แล้วค่อยล้างออกด้วยการอา้ำบน้ำสระผมตามปกติ 
 
  ในการอาบน้ำ ยังอาจนำ ใยบวบ ที่เป็นเส้นใยธรรมชาติมาใช้แทนฟองน้ำช่วยขัดผิวและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยทำให้ผิวสะอาดและสดชื่นยิ่งขึ้น

   เมื่อผิวคุณได้รับอาหารอย่างเต็มที่ ก็จะมีสุขภาพดีและแข็งแรง และคุณเองก็ต้องไม่ลืมที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เน้นความหลากหลายโดยเฉพาะผักและผลไม้เพื่อเสริมวิตามินและเกลือแร่ให้กับร่างกาย ลดของมันๆ ให้น้อยลง และทำจิตใจให้เบิกบาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
อยู่เสมอ

 เท่านี้คุณก็จะได้ประโยชน์จากสปาูตรบำรุงความสวยที่คุณทำได้เองที่บ้านอย่างเต็มที่แล้วล่ะค่ะ